ยอง ต้นตระกูลชาวลำพูน

15 สิงหาคม 2018, 15:04:07



"ยอง"
ต้นตระกูลชาวลำพูน ไม่ใช่ชื่อชาติพันธุ์แต่ "ยอง"" คือ กลุ่มชนเดียวกับ "ลื้อ"

เมืองยอง คือ อำเภอหนึ่งใน รัฐฉาน ประเทศพม่าขึ้นกับแขวงเมืองพะยาค เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งเกี่ยวข้องกับ พม่า ล้านนา สยาม ลาว และ เขตสิบสองปันนา ของจีน ผู้ที่อยู่อาศัยในเมือง จะถูกเรียกว่า ชาวลื้อ
คนเมืองยองสืบเชื้อสายมาจากผู้คนที่อพยพมาจากเมืองเชียงรุ่งและเมืองอื่น ๆ ในสิบสองพันนา ซึ่งเป็นคนลื้อหรือไทลื้อ และเมื่ออพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานครั้งใหญ่ในเมืองลำพูนในปี พ.ศ. 2348 คนทั่วไปจึงเรียกว่า คนเมืองยอง เพราะในสมัยนั้นรัฐประชาชาติหรือรัฐชาติ (Nation State) แบบตะวันตกยังไม่เกิดขึ้น ในสมัยนั้นผู้คนต่างบ้านหลายเมืองที่มาอยู่ร่วมกัน จึงเรียนขานกันตามชื่อบ้านเมืองเดิม เช่น คนเมืองเชียงใหม่ คนเมืองลำปาง คนเมืองแพร่ คนเมืองน่าน คนเมืองเชียงตุง เป็นต้น ฉะนั้นคนไทยอง จึงไม่ใช่คนไทยที่เป็นชาติพันธุ์ยอง แต่เป็นคนไทลื้อ ที่อาศัยอยู่เมืองยอง

"คนยอง"ชาติพันธุ์ต้นตระกูลคนลำพูน




 


จากข้อมูลของกลุ่มนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ต่างให้การยอมรับว่า
"นครหริภุญไชย" หรือลำพูน เป็นจังหวัดที่มีกลุ่มคน ชาติพันธุ์ที่หลากหลายที่สุดในภาคเหนือ อาทิ ยวน โยนก ไทใหญ่ ยางแดง เขิน ลื้อ ลั้วะ ยอง มอญ

หากนับชาติพันธุ์ตั้งแต่อดีต ยุคสมัยที่พระนางจามเทวี พร้อมไพร่พล จากเมืองละโว้ เข้ามาปกครองบ้านเมือง สร้างความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านศาสนา สังคม และวัฒนธรรมจนเป็นที่กล่าวขานว่า เป็นแผ่นดินทองของล้านนา

ต่อมาเมื่อต้องถูกรุกราน ลำพูนต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของเชียงใหม่
จนถึงยุคที่พม่าเข้ามารุกรานล้านนา และได้ปกครองลำพูนนานกว่าสองศตวรรษ ต้องยอมรับว่าในช่วงหลังสงคราม ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใดก็ตาม เมืองที่ถูกรุกรานแทบจะกลายเป็นเมืองร้างทันที ผู้คนชาวบ้านต่างหนีตายอพยพลูกหลานไปอาศัยอยู่ที่อื่นกันหมด




สำหรับเมืองลำพูนหลังจากที่ พญากาวิละ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้ต่อสู้ ขับไล่พม่าจนชนะ จึงได้เกณฑ์ชาวเชียงใหม่และชาวลำปางประมาณ 1,500 คนให้มาตั้งรกรากที่เมืองลำพูนพร้อมกันนี้ได้กวาดต้อนชาวไตลื้อจากเมืองยองสิบสองปันนา ประมาณ 10,000 คนมาอยู่เมืองลำพูน ในช่วงที่มีการอพยพ โยกย้ายผู้คนจำนวนมากนี้ เรียกกันว่า "ยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง" เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2348 และพญากาวิละได้สถาปนาให้เจ้าคำฝั้น หรือ เจ้าบุรีรัตน์ เป็นเจ้าเมืองลำพูนมาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ในที่ราบลุ่มฝั่งแม่น้ำกวง
ตรงข้ามกับตัวเมืองลำพูน ด้านตะวันออก คือบ้านเวียงยองและบ้านตองในปัจจุบัน สำหรับสาเหตุที่ทำให้ชาวไตถูกกวาดต้อนอพยพมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองในครั้งสงครามนั้น เนื่องจากเป็นเมืองชายขอบที่อยู่ระหว่างศูนย์อำนาจใหญ่ เช่น พม่าจีน เชียงตุง เชียงรุ่ง เชียงแสน เชียงใหม่ และหลวงพระบาง ตั้งอยู่ในแอ่งที่ราบขนาดเล็กเป็นเมืองที่ไม่มีความเข้มแข็งและมีอำนาจในช่วงสงคราม จึงมีการแก่งแย่งกวาดต้อนผู้คนจากเมืองเล็กๆ ที่ไม่มีความเข้มแข็ง เมืองยองได้รับความกระทบกระเทือนทุกครั้งทำให้ผู้คนล้มตายและหลบหนีเข้าป่าไปจนเกือบเป็นเมืองร้าง

ครั้งที่พญากาวิละ ไปกวาดต้อนผู้คนจากเมืองยองมานั้น ได้ประกาศว่า "ผู้ใดสมัครใจจะไปอยู่เมืองหละปูน บ่ต้องโกนหัว ส่วนไผอยู่เมืองเดิม ให้โกนหัวเสีย"ปรากฏว่าชนชั้นเจ้านาย ยอมโกนหัว เพื่อประกาศว่าจะไม่ละทิ้งแผ่นดินเกิดในขณะที่ชนชั้นล่าง ชาวไร่ ชาวนา ยินยอมที่จะอพยพไปตายเอาดาบหน้า แต่พญากาวิละเห็นว่ากลุ่มคนที่ไม่ยอมไป มีมากกว่าและเป็นกลุ่มคนชั้นสูงที่มีคุณภาพ จึงกลับคำและสั่งให้กลุ่มคนเหล่านั้นไปอยู่เมืองหละปูนแทน ส่วนพวกชาวนา ชาวไร่ก็ให้ปักหลักอยู่แผ่นดินเดิมต่อไป


การฟื้นฟูเมืองลำพูนของพระเจ้ากาวิละ เพื่อต้องการให้เมืองเชียงใหม่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้นประกอบกับเมืองลำพูนยังเคยเป็นส่วนหนึ่งของเชียงใหม่มาก่อน จึงได้ให้เจ้าเมืองยอง บุตร ภรรยา พี่น้อง พร้อมชาวยองจำนวนหนึ่งมาตั้งถิ่นฐานราบลุ่มแม่น้ำกวง ฝั่งด้านทิศตะวันออกของเมืองลำพูน แม่น้ำทาและแม่น้ำลี้ เพื่อที่พระเจ้ากาวิละจะสามารถควบคุมดูแลได้ง่ายและป้องกันการก่อกบฏด้วย

นางเพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์
หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญชัย กล่าวว่าคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดว่ายองเป็นชื่อของชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งที่แยกตัวมา จากชาวไต แต่แท้จริงแล้ว ยองเป็นชาติพันธุ์เดียวกับชาวไตลื้อ ไตเขิน เพียงแต่อพยพมาจากคนละเมือง ไตยองมาจากเมืองยอง ไตเขินมาจากเชียงตุง ปัจจุบันอยู่ในประเทศพม่า และไตลื้อมาจากเชียงรุ่ง ในสิบสองปันนาปัจจุบันอยู่ในประเทศจีน พอมาอยู่เมืองไทยจึงเรียกตนเองว่า "ไตยอง"





"การสร้างความโดดเด่น หรือ อัตลักษณ์ ให้กับตนเองทางด้านวัฒนธรรมนั้น ชาวไตเขิน จะสร้างให้ตนเองเป็นสล่า หรือช่างฝีมือชั้นสูง ที่เห็นได้ชัดคือหมู่บ้านเขินแถบวัวลาย กลางเมืองเชียงใหม่ เป็นแหล่งผลิตเครื่องเขินเครื่องเงินและหัตถศิลป์ต่างๆ ชาวไตยอง จะเป็นช่างแกะสลักไม้ และทอผ้าในขณะที่ชาวไตลื้อจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำไร่ ทำนา"

อาจารย์แสวง มาละแซม นักวิชาการท้องถิ่น จากโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ผู้เขียนหนังสือ ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น คนยองย้ายแผ่นดิน และคนยองกล่าวว่า การเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองลำพูนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมโดยเมืองยองมีพลเมืองลดลงแต่เมืองลำพูนมีจำนวนพลเมืองเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งในรัชกาลที่ 5
ชาวยองเมืองลำพูน ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองชาวสยามการปรับตัวของชาวยองในแผ่นดินสยาม ในด้านสังคมและวัฒนธรรมกลุ่มชาวยองยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตนเองไว้อย่างยาวนาน อาทิ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ภาษาพูด "ภาษายอง"ซึ่งเป็นภาษาพูดที่สามารถสื่อสารกันอย่างเข้าใจระหว่างชาวยอง สิบสองปันนากับชาวยองลำพูน ซึ่งต่างจากชาติพันธุ์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในลำพูน แต่ถูกวัฒนธรรมคนเมืองกลืนไปจนหมด

"ปัจจุบันนี้ ชาวยองนับว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มใหญ่ของเมืองลำพูน เกือบ70 เปอร์เซ็นต์ พลเมืองลำพูน ทั้ง 7 อำเภอ 1 กิ่ง เป็นคนยองที่อาศัยราบลุ่มน้ำทา น้ำลี้ น้ำกวงทั้งสิ้น เป็นระยะเวลากว่า200 ปี ที่คนยองได้ย้ายแผ่นดิน จากสิบสองปันนา มาอยู่สยามประเทศถึงแม้ว่าระยะทางจะห่างไกลกันก็ตาม แต่คนยองทั้งสองประเทศยังไปมาหาสู่กันอยู่ ร่วมกันคิด สืบสานวัฒนธรรมรากเหง้าของบรรพบุรุษให้ลูกหลานได้สืบทอดต่อไป"


@@ทันตแพทย์อุทัยวรรณ
กาญจนกามล ทายาทรุ่นที่ 4 เจ้าเมืองยอง ที่ถูกพญากาวิละกวาดต้อนมาอยู่เมืองลำพูน เล่าว่า พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าชาวไตยองที่ถูกกวาดต้อนมา มักจะถูกเหยียดยาม ไม่ได้รับการยกย่องจากกลุ่มคนเมือง และกลุ่มเจ้านายเมืองเหนือ ถ้าเกิดมาเป็นหญิงมีรูปลักษณ์หน้าตาสวยงาม ก็จะได้แต่งงานกับเชื้อเจ้า และเจ้าขุนมูลนายเหมือนกับย่าทวด หรือเจ้าแม่คำเฝื่อ ลูกสาวเจ้าเมืองยองที่มีด้วยกันสองพี่น้อง

ผู้พี่ได้แต่งงานกับเจ้าหลวงเมืองลำพูน เจ้าดาราดิเรกรัตน์ไพโรจน์ แต่ก็ไม่ได้รับการยกย่องเชิดชู ส่วนน้องสาวแต่งงานกับคนจีนตระกูลแซ่เล้า ใน ตระกูลอนุสารสุนทร ซึ่งเป็นต้นตระกูลของนิมมานเหมินทร์

ถึงแม้ว่าจะมีเชื้อเจ้าเมืองยองการเมืองในขณะนั้นค่อนข้างที่จะรุนแรง แต่ตลอดระยะเวลาก็ต้องปกปิดฐานะตนเองไว้ แสดงตัวไม่ได้ และถ้ามีทายาท ที่เป็นลูกชายที่มีความเข้มแข็งแกร่งกล้า หรือฝึกการต่อสู้ถ้าเจ้าเมืองทราบก็จะถูกกำจัดดังนั้น พ่อของตนจึงได้นำตนไปฝากพระประสานสุตาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเลี้ยงดู และด้วยความที่พ่อแม่ไม่ค่อยพูดถึงประเพณี วัฒนธรรมของบรรพบุรุษให้ฟัง จึงทำให้รากเหง้าต่างๆถูกทำลายด้วยความเป็นไปของโลกปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรักษาภาษาพูดไว้ สำหรับการกีดกันของเชื้อเจ้านายฝ่ายเหนือ ก็หมดสิ้นไปตามยุคสมัยในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมือง พ.ศ.2475


นับเป็นประวัติศาสตร์ ครั้งสำคัญของชาวไตหรือคนยอง ที่อพยพกันมาแบบเทครัว หรือเตโค ตั้งแต่ปี พ.ศ.2348 จนถึงเมษายน 2549 เป็นเวลา 200 ปีที่ชาวยองได้มาตั้งถิ่นฐานที่เมืองลำพูน เอกลักษณ์ และวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ยังคงสืบทอดมาจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน อาทิ การแต่งกาย ผู้เฒ่า ผู้แก่บางคนยังคงแต่งกายแบบชาวไต

ภาษายอง ซึ่งเป็นภาษาพูดที่เป็นเอกลักษณ์ สำเนียงแปลก แตกต่างจากภาษาคำเมือง บ้านที่อยู่อาศัย ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะหาดูได้ยาก แต่ยังมีให้เห็นใน อ.ป่าซาง อ.บ้านธิ และ อ.เมือง ซึ่งลักษณะของบ้านชาวยองนั้น จะนิยมสร้างบ้านไม้ ใต้ถุนโล่ง หลังคาจะไม่มีกาแล แต่จะมีรูปนกยูง ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ที่ชาวยองเคารพนับถือประดับอยู่แทน ศิลปะการฟ้อนรำบางอย่าง เช่น ฟ้อนยอง ฟ้อนดาบ การทำกลองหลวง ความเคารพ ยึดถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รักความสงบ

ชาวไตยองนับเป็นชาติพันธุ์ บรรพบุรุษคนลำพูน ที่รักษารากเหง้าของตนเองได้นานกว่า200 ปี ซึ่งเด็กรุ่นหลังควรจะภาคภูมิใจ ยึดรากเหง้าวิถีชีวิตดั้งเดิมของบรรพบุรุษรักษาไว้"

ขอขอบคุณอย่างสูงสำหรับข้อมูล เฟสบุ๊ค-Phong Mac Arthur



 


****************************************************************************
บริการจัดทัวร์ 
เชียงตุง เมืองยอง สิบสองปันนา คุนหมิงจีน หลวงพระบาง วังเวียงลาว มัณฑเลย์ พุกาม ทะเลสาบอินเล ตองจีรัฐฉาน

บริษัท เชียงตุงเรียลเอสเตท แอนด์ ทราเวล จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 21/00833
โทร : 092-891-2277,093-2537733,053-727255
ไลน์ไอดี : @chiangtung, @chiangraitravel
เว๊ปไซค์ : www.chiangraitv.com

เชียงตุง youtube - https://bit.ly/38Ltyta
สิบสองปันนา youtube - https://bit.ly/38HE58w
 

บทความที่คุณอาจสนใจ

เจ้าขุนสามหลวงยกทัพไปตีเวสาลี

ดินแดนลึกลับที่ยังรอคอยการพิสูจน์...

ความรวยนอกจากจะต้องใช้สมองและฝีมือแล้ว บางครั้งเราก็ต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็นเพื่อช่วยความสบายเสริมบุญบารมี แต่จะบูชาของมงคลอะไรแล้วรวย มีโชคลาภดึงดูดทรัพย์สินเงินทองเข้ากระเป๋ามีอะไรบ้าง

เมืองเชียงลาบ เป็นหัวเมืองไทลื้อ เมืองหนึ่งของสิบสองปันนา ก่อตั้งโดยพญาเจื่องฟ้าธรรมิกราช หรือ ขุนเจื่องหรือ พญาเจื่อง หรือ สมเด็จพระเจ้าหอคำเชียงรุ่งที่ 1 แห่งราชวงค์อาฬาโวสวนตาน

บริษัท ไชยนารายณ์ โกลเบิ้ล จำกัด

66 หมู่1 ถนนโชคชัย4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10320

Tel ซื้อสินค้า : 063 5599 896

Tel ซื้อสินค้า : 092 891 2277

Tel ท่องเที่ยว :

Line ซื้อสินค้า : @chainarai

Line ท่องเที่ยว : @chainarai

Email : chainarai456@gmail.com

แผนที่

เพจ สิบสองปันนา หลวงพระบาง

เพจ เชียงตุง อยู่ดีกินหวาน